5 เคล็ดลับเลือกสีทาบ้านสำหรับมือใหม่แบบไม่ง้อช่าง

5 เคล็ดลับเลือกสีทาบ้านสำหรับมือใหม่แบบไม่ง้อช่าง

1. mood&tone และแสง ภายในห้อง
แสงและสีมีความเชื่อมกันอยู่ในตัว ดังนั้นก่อนจะเลือกเฉดสี เราต้องรู้ก่อนว่าจะให้แสงของห้องนั้นๆ ออกมาเป็นยังไง ทั้งแสงธรรมชาติและแสงจากหลอดไฟ รวมถึง mood&tone ของห้องที่อยากให้เป็น ยกตัวอย่าง อยากได้ห้องโทนสว่างแต่ช่องแสงเข้ามาเยอะอยู่แล้ว ก็อาจเลือกโทนสีที่ไม่ต้องสว่างจนเกินไป ตรงกันข้ามหากชอบแนวดาร์กมืดๆ ก็เน้นหลอดไฟสีส้มสลัวๆ และสีโทนเข้ม

2. คำนึงถึงเฟอร์นิเจอร์
ถ้าเป็นบ้านใหม่ยังไม่มีเฟอร์นิเจอร์ ให้ลองคิดหรือดูภาพจากเว็บต่างๆ ว่าห้องที่จะแต่งในสไตล์ที่เราชอบเฟอร์นิเจอร์จะออกมาเป็นสีอะไรบ้าง เพื่อจะได้ตัดช้อยส์สีทาห้องที่ไม่เข้าพวก และมีตัวเลือกน้อยลงให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น หรือถ้าคิดไม่ตกจริงๆ สามารถใช้สีส่วนหนึ่งจากเฟอร์นิเจอร์ มาเป็นสีทาผนังก็นับว่าเป็นไอเดียที่ดี ห้องจะได้ออกมาดูเป็นทิศทางเดียวกัน


3. รู้ประเภทและคุณสมบัติของสี
ทาสีภายในสิ่งแรกที่ต้องรู้คือ ต้องซื้อแบบไม่มีสารเคมี และต้องมีกลิ่นเห ม็นน้อยมากหรือไม่มีกลิ่นเลยจะดีที่สุด อีกทั้งยังดูไปถึงเป็นสีที่ป้องกันเชื้อราและแบคทีเรียอีกด้วย รวมทั้งกำจัดเชื้อชนิดใหม่อย่างไวรัสโคโรนา สุดท้ายเมื่อผนังมีคราบสกปรก ก็ควรล้างและเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย ที่สำคัญสีต้องติดทนทาน ซึ่งในปัจจุบันไม่ว่าจะสียี่ห้อไหนก็ล้วนมีคุณสมบัติครบถ้วน แต่ควรถามเพื่อความชัวร์

4. เทียบสีต่อสีที่ชื่นชอบ
เมื่อถึงเวลาเลือกสีที่อยากได้ ทางร้านจะมีเฉดให้เลือกเป็นเล่มๆ เลยทีเดียว ซึ่งทางร้านจะไล่เฉดแต่ละสีตั้งแต่อ่อนไปจนถึงเข้มสุดไว้ให้เรียบร้อย ลองสังเกตว่าสีในใจที่อยากได้พอเห็นจริงๆ แล้วเป็นยังไง สะท้อนแสงเกินไปไหม เข้มไปหรืออ่อนไปกว่าที่คิดจะได้เปลี่ยนทัน แต่พยายามอย่าเปลี่ยนไปมาบ่อยๆ ประมาณว่าสีนี้ก็สวยสีนั้นก็โดน เดี๋ยวห้องจะไม่ได้ทาเสียก่อน

Graphic design and color swatches and pens on a desk. Architectural drawing with work tools and accessories.

5. ทาใส่กระดาษก่อนทาบนผนัง
ได้ทุกอย่างครบตรงโจทย์แล้ว แต่อย่าเพิ่งใจร้อนรีบทาลงผนังทันที ให้นำสีมาทาบนแผ่นตัวอย่าง หรือกระดาษแข็งที่มีขนาดใหญ่หน่อย จะได้เห็นแบบชัดเจนและแปะไว้บนผนัง เพื่อดูว่าจะเป็นยังไงพอลองทางจริงแล้วโอเคไหม อาจทิ้งไว้หลายวันเพื่อความแน่ใจก็ได้ อย่างน้อยถ้าไม่ถูกใจก็จะได้ซื้อใหม่ทัน